Powered By Blogger

วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2559

อาหารหมูลดต้นทุน

การเลี้ยงหมูในปัจจุบัน ของรายย่อย จะต้องแบกรับต้นทุนเรื่องค่าอาหาร มากกว่า50% ด้วยต้นทุนค่าอาหารในการเลี้ยงหมู ร้อยละ70 หากใช้อาหารสำเร็จรูปเต็มรูปแบบ จะต้องรับภาระ ค่าการตลาด กว่า30% ค่ากำไรของคนขาย 25-30% ค่าขนส่ง อีก10% รวมแล้วจะต้องควักเงินจ่ายในการเลี้ยงหมูมากกว่า ร้อยละ50 เพื่อให้การเลี้ยงหมู ของรายย่อย สามารถอยู่รอดได้ จึงต้องมีการพิจารณา และลงมือปฏิบัติการ เรื่องการผสมอาหารเองให้ได้เพื่อลดต้นทุน ก่อนจะผสมอาหาร ชาวหมูรายย่อยจะต้องเข้าใจก่อนว่า หมูต้องการอาหารอย่างไร นำไปใช้อย่างไร เสียก่อน ในอาหารหนึ่งส่วนหรือ100% หมูจะสามารถนำไปใช้ ในการดำรงชีวิตอยู่ ประมาณ 30% การสร้างภูมิคุ้มกันโรค 30% และเจริญเติบโตอีกประมาณ40% และแบ่งเป็น พลังงานทึ่ต้องใช้อีกไม่ต่ำกว่า 3 พันแคลลอรี่ โปรตีน แบ่งตามเกณท์น้ำหนัก ที่สำคัญคือจะต้องทำให้หมูนำอาหารไปใช้ได้หมด จุดนี้คือประเด็นที่จะชี้ให้เห็นว่า "จะทำอย่างไรไม่ให้มีกลิ่นของขี้หมู" การผลิตอาหารโดยทั่วไป ก็จะใช้วัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นเป็นหลัก เช่น ปลายข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด รำ กากปาล์ม ถั่วเหลือง ปลาป่น ฯลฯ ซึ่งรายย่อยก็สามารถหาได้เอง และที่ยังขาดคือ กลุ่มแร่ธาตุ วิตามิน ตรงนี้ต้องหามาจากผู้ผลิตเอาเอง เมื่อต้องการจะผลิตอาหารเอง จึงต้องศึกษา หาความรู้ให้เกิดความเข้าใจ จริงๆ ลงมือทำ จนเกิดความเชี่ยวชาญ นั่นก็คือ ชาวหมูรายย่อยจึงจะสามารถเลี้ยงหมูแล้วมีกำไร มากขึ้น เริ่มต้น ควรพิจารณาเรื่องวัตถุดิบก่อน ว่าจะใช้อะไรบ้าง วัตถุดิบในท้องถิ่นของเรามีอะไร ส่วนที่ขาดจะหาได้ที่ไหน เช่น แร่ธาตุ วิตามิน อื่นๆ
 สูตรอาหาร นำมาจากโปรแกรม ของ รศ.อุทัย คันโธ
ในสูตรส่วนผสม เราสามารถใส่วัตถุดิบลงไป และจะมีการแสดงจำนวนพลังงาน โปรตีน ราคา ขึ้นมาให้ทราบ เราจึงพิจารณาได้ว่าจะใช้สูตรผสมอย่างไร ที่เหมาะสมกับการใช้ บางพื้นที่มีปลายข้าว มีรำ ก็ใช้ตามที่มี บางที่มีข้าวโพด มีปาล์ม ก็เลือกใช้ ตามสะดวก แต่ต้องมีอาหารหลักคือ กากถั่วเหลือง เป็นหลัก ต่อมาคือการทำให้หมู สามารถนำอาหารไปใช้จนหมด ก็คือการดูแลสุขภาพหมู การป้องกันโรค ความสะอาดของอาหาร น้ำ คือเน้นการจัดการให้ดี จะทำให้หมูมีสุขภาพดี สามารถย่อย ขับถ่ายออกมา จนขี้หมูปราศจากกลิ่น และมีมันวาว แมลงวันก็ไม่มาใกล้ เพราะไม่มีอาหารคงค้างออกมากับขี้หมูแม้แต่นิดเดียว